ประเภทของบัญชีเงินฝากต่างกันอย่างไร และมีกี่ประเภท
ได้ยินคำว่าเงินฝากหลายคนคงเข้าใจกันดีอยู่แล้ว เพราะไม่มีใครไม่เคยฝากเงินไว้กับสถาบันการเงิน แต่โดยส่วนใหญ่นั้นจะ
เลือกฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์กัน เราจึงจะมาดูกันว่าในประเทศไทยมีบัญชีเงินฝากกี่ประเภทและแต่ล่ะประเภทแตกต่างกันอย่างไร
เพื่อที่จะเลือกใช้บัญชีเงินฝากได้อย่างเหมาะสม
บัญชีเงินฝากแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จะเป็นบัญชีที่ธนาคารพาณิชย์ ทำออกมาเพื่อให้ลูกค้ารายย่อย โดยใช้จะเน้นความสะดวกสบายในการฝากและถอนเงิน
โดยจะมีไม่มีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝากและถอน หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นั้นจากดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงินด้วย
ซึ่งธนาคารพาณิชย์จะจ่ายเงินให้ผู้ฝากปีล่ะ 2 ครั้ง โดยจะคำนวณเป็นรายวัน แต่อัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างน้อยเพราะว่าไม่มีการกำหนดเวลาในการฝาก
จะถอนเมื่อไรก็ได้ ธนาคารจึงไม่สามารถนำเงินไปต่อยอดได้มาก และคนส่วนใหญ่จะไม่นำเงินจำนวนมากมาฝากในบัญชีประเภทนี้ ทำให้ไม่เห็นผลกำไ
รที่ชัดเจน
ได้ยินคำว่าเงินฝากหลายคนคงเข้าใจกันดีอยู่แล้ว เพราะไม่มีใครไม่เคยฝากเงินไว้กับสถาบันการเงิน แต่โดยส่วนใหญ่นั้นจะ
เลือกฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์กัน เราจึงจะมาดูกันว่าในประเทศไทยมีบัญชีเงินฝากกี่ประเภทและแต่ล่ะประเภทแตกต่างกันอย่างไร
เพื่อที่จะเลือกใช้บัญชีเงินฝากได้อย่างเหมาะสม
บัญชีเงินฝากแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จะเป็นบัญชีที่ธนาคารพาณิชย์ ทำออกมาเพื่อให้ลูกค้ารายย่อย โดยใช้จะเน้นความสะดวกสบายในการฝากและถอนเงิน
โดยจะมีไม่มีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝากและถอน หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นั้นจากดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงินด้วย
ซึ่งธนาคารพาณิชย์จะจ่ายเงินให้ผู้ฝากปีล่ะ 2 ครั้ง โดยจะคำนวณเป็นรายวัน แต่อัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างน้อยเพราะว่าไม่มีการกำหนดเวลาในการฝาก
จะถอนเมื่อไรก็ได้ ธนาคารจึงไม่สามารถนำเงินไปต่อยอดได้มาก และคนส่วนใหญ่จะไม่นำเงินจำนวนมากมาฝากในบัญชีประเภทนี้ ทำให้ไม่เห็นผลกำไ
รที่ชัดเจน
2. บัญชีเงินฝากประจำ
เป็นบัญชีเงินฝากที่มีการกำหนดระยะเวลาและจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝาก โดยธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์เพราะว่า
การฝากเงินใน บัญชีเงินฝากประจำจะมีระยะเวลาในการฝากที่นานกว่าบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ ธนาคารจึงสามารถนำเงินไปต่อยอดเพิ่มได้เช่น
การนำเงินไปปล่อยกู้ นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เป็นต้น บัญชีเงินฝากประจำจึงเหมาะกับคนที่มีเงินสดไม่จำเป็นต้องใช้และต้องการให้เกิดมูลค่าเพิ่ม
และรับความเสี่ยงได้น้อย เพราะการลงทุนประเภทเงินฝากถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยหรือไม่มีความเสี่ยง
3. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือบัญชีเงินฝากเดินสะพัด
เป็นบัญชีเงินฝากที่มีการกำหนดระยะเวลาและจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝาก โดยธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์เพราะว่า
การฝากเงินใน บัญชีเงินฝากประจำจะมีระยะเวลาในการฝากที่นานกว่าบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ ธนาคารจึงสามารถนำเงินไปต่อยอดเพิ่มได้เช่น
การนำเงินไปปล่อยกู้ นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เป็นต้น บัญชีเงินฝากประจำจึงเหมาะกับคนที่มีเงินสดไม่จำเป็นต้องใช้และต้องการให้เกิดมูลค่าเพิ่ม
และรับความเสี่ยงได้น้อย เพราะการลงทุนประเภทเงินฝากถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยหรือไม่มีความเสี่ยง
3. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือบัญชีเงินฝากเดินสะพัด
เป็นบัญชีที่มีไว้เพื่อความสะดวกสบายในการทำธุรกิจ โดยธนาคารเปิดบัญชีนี้มาเพื่อลูกค้าระดับกลางหรือระดับสูงที่มีเครดิตดี
เพราะบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน สามารถเบิกเกินบัญชีได้ซึ่งธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยรายวันที่เบิกเกินบัญชี ซึ่งการใช้จ่ายเงินในบัญชีกระแสรายวัน
จะใช้ในรูปแบบการเซ็นเช็ค และผู้รับเช็คจะนำไปขึ้นเงินกับธนาคาร และบัญชีเงินฝากกระแสรายวันจะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ฝากเพราะว่าลูกค้า
จะได้รับความสะดวกสบายใจการใช้จ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนามาไกลมากขึ้นทำให้บัญชีประเภทนี้
ได้รับความนิยมที่น้อยลง เพราะว่าการโอนเงิน ชำระเงิน ใช้จ่ายเงิน ง่ายขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน internet banking
หรือ mobile app ของ ธนาคาร
เพราะบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน สามารถเบิกเกินบัญชีได้ซึ่งธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยรายวันที่เบิกเกินบัญชี ซึ่งการใช้จ่ายเงินในบัญชีกระแสรายวัน
จะใช้ในรูปแบบการเซ็นเช็ค และผู้รับเช็คจะนำไปขึ้นเงินกับธนาคาร และบัญชีเงินฝากกระแสรายวันจะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ฝากเพราะว่าลูกค้า
จะได้รับความสะดวกสบายใจการใช้จ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนามาไกลมากขึ้นทำให้บัญชีประเภทนี้
ได้รับความนิยมที่น้อยลง เพราะว่าการโอนเงิน ชำระเงิน ใช้จ่ายเงิน ง่ายขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน internet banking
หรือ mobile app ของ ธนาคาร