แม้ที่ผ่านมาจะสินค้าชนิดนี้จะขาดตลาด จากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น แต่ในตอนนี้ก็เริ่มหาซื้อได้ง่ายขึ้นแล้ว มีทั้งแบบเจลและสเปรย์ให้เลือกใช้ตามความชอบของแต่ละคน แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ติดค้างในใจของหลายคนคือ แล้วเราควรจะเลือกแอลดอฮอล์ที่มีระดับความเข้มข้นเท่าไร? และปริมาณแค่ไหนถึงจะเหมาะสมและฆ่าเชื้อไวรัสได้หากเราย้อนกลับไปดูประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ พ.ศ.2562 นอกจากสาระสำคัญ คือการเปลี่ยนจากหมวดเครื่องมือแพทย์ ไปเป็นหมวดเครื่องสำอาง เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์เร่งด่วนที่มีความต้องการจำนวนมาก
ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ระบุไว้ชัดเจนในประกาศนี้ ก็คือ แอลกอฮอล์ที่เป็นส่วนประกอบผลิตภัณฑ์นั้นๆ ต้องมีปริมาตรรวมกันตั้งแต่ 70% ขึ้นไป ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์น้อยกว่า 70% โดยปริมาตรนั้น ห้ามผลิต น้ำเข้า และจำหน่าย
ปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่า 70% โดยปริมาตร จะฆ่าเชื้อโรคไม่ได้
..ถามว่าทำไมถึงต้องเป็น 70% ขึ้นไป?
นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา มีคำตอบว่า หากมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่า 70% โดยปริมาตร จะฆ่าเชื้อโรคไม่ได้ พร้อมยังบอกอีกว่า ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ผ่านการจดแจ้งจาก อย. แล้ว ประชาชนจะมั่นใจได้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% โดยปริมาตร ขณะที่ข้อมูลของ องค์การสุรา กรมสรรพสามิต อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า แอลกอฮอล์สามารถทำลายได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัสบางชนิด และเมื่อละลายกับน้ำจะสามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้ดีขึ้น จึงทำให้โปรตีนเสียสภาพและทำให้เยื่อหุ้มเซลล์แตก และเข้าไปรบกวนระบบ metabolism ได้ด้วย แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์จะทำให้โปรตีนด้านนอกของเยื่อหุ้มเซลล์เสียสภาพได้ อย่างเดียวเท่านั้น ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ปกติที่นิยมใช้กันจะอยู่ในช่วง 60−90% (ถ้าความเข้มข้นมากกว่านี้จะไม่สามารถเข้าเซลล์ได้)
และโดยพื้นฐานแล้ว แอลกอฮอล์ 90% หรือ 91% เข้มข้นมากเกินไป บางกรณีสารละลายที่เข้มข้นเกินไป จะทำลายที่ภายนอกของเซลล์ หรือเยื่อหุ้มเซลล์ก่อน ถึงจะเข้าไปข้างในและเกิดการฆ่าเชื้อจริง แต่หากเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% นับเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม เพราะน้ำและแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายเซลล์ทั้งหมด โดยปริมาณน้ำที่มีอยู่จะสามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เพื่อเข้าไปฆ่าเชื้อได้
ซึ่ง ดร.เอลิซาเบธ สก็อตต์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ประสิทธิภาพของการกำจัดเชื้อ ขึ้นอยู่กับการต่อต้านและโครงสร้างของไวรัสแต่ละชนิด อย่างเช่น ไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดทั่วไป เอชไอวี และโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ สามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ 60% หรือมากกว่านั้น ขณะที่ไวรัสชิดอื่นๆ เช่น Norovirus ไม่ได้มีการกำหนดไว้
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ คือ การปฏิบัติตัวในเรื่องสุขอนามัยที่ถูกต้อง เช่น การล้างมือ ในแต่ละครั้งควรล้างมือนาน 20 วินาที ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณที่มือของเราไปสัมผัสบ่อยๆ และการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
ที่มา : bangkokbiznews, apartmenttherapy