หากความสำคัญของงบดุล (Balance Sheet) คือแผนผังแสดงโครงสร้างหลักของกิจการ เพราะเป็นรายงานที่บ่งบอกถึงสภาพความมั่นคงเชิงเปรียบเทียบระหว่างสภาพสินทรัพย์และหนี้สิน งบกำไร/ขาดทุน (Income Statement) ก็คงเปรียบได้กับแผนผังเส้นเลือดของกิจการ เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของกิจการทั้งหมดพร้อมแสดงออกมาในรูปกำไรหรือขาดทุนเพื่อบ่งบอกการเติบโตของกิจการ ซึ่งเป็นอีกรายงานทางการเงินที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างมาก
ดังนั้น ในบทความนี้จึงรวบรวมสาระสำคัญเบื้องต้นของรายงานงบกำไร/ขาดทุน ที่ผู้ประกอบการควรรู้ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจ อีกทั้งช่วยในการวางแผนกำไรและควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนเกินเพื่อการวางแผนเสียภาษีได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง
งบกำไร/ขาดทุนคืออะไร
กิจกรรมการดำเนินงานของกิจการในรอบระยะเวลาหนึ่ง ๆ เช่น 3 เดือน 6 เดือน แต่ต้องไม่เกิน 1 ปี จะถูกแสดงความสามารถของธุรกิจว่ามีรายได้ และค่าใช้จ่ายเท่าใด ออกมาในรูปแบบของรายงานงบกำไร/ขาดทุน หรือ Income Statement โดยรายงานดังกล่าวนี้ มีหลักสมการที่สำคัญ คือ
“รายได้ – ค่าใช้จ่าย = กำไร (ขาดทุน)”
ซึ่งแต่ละตัวแปรของสมการมีความหมาย ดังนี้
1. รายได้ สำหรับบุคคลทั่วไป รายได้หมายถึงการได้รับผลตอบแทนจากการขายสินค้าหรือบริการ แต่ในทางบัญชีรายได้ หมายความครอบคลุมไปถึงสินทรัพย์ที่บริษัทถือครองไว้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น หรือจากการลดลงของหนี้สินจากการปรับโครงสร้างหนี้ทำให้ส่วนทุนของเจ้าของเพิ่มขึ้น โดยรายได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
2. ค่าใช้จ่าย สำหรับในทางบัญชีค่าใช้จ่าย หมายถึง การลดลงของสินทรัพย์หรือการเพิ่มขึ้นของหนี้สินเพื่อใช้ดำเนินกิจกรรมของกิจการ ซึ่งประกอบด้วย ต้นทุน 3 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้
3. กำไร(ขาดทุน) ขั้นต้น เมื่อนำผลรวมรายได้ทั้งหมดของกิจการ หักออกจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็จะได้ผลตอบแทนออกมาในรูปกำไร หรือขาดทุนขั้นต้น (ก่อนหักภาษี) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนี้เป็นส่วนสำคัญในการคำนวณจำนวนเงินที่ต้องจ่ายภาษีของกิจการโดยกฏหมายกำหนดหลักเกณฑ์ในการจ่ายภาษี ดังนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกกิจการที่มีผลประกอบการขาดทุนจะไม่ต้องเสียภาษี เพราะกำไร (ขาดทุน) ที่นำมาคำนวณภาษีจะต้องเป็นตัวเลขที่ใช้ได้ทางภาษี นั่นหมายถึง ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักออกจะต้องเป็นรายจ่ายที่ภาษีกำหนด โดยต้องไม่เข้าข่ายรายจ่ายต้องห้าม เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายรับรอง ซึ่งหากกิจการใดๆนำรายจ่ายต้องห้ามเหล่านี้มาหักออกจากรายได้เพื่อแสดงว่ากิจการมีผลประกอบการขาดทุน นอกจากกิจการนั้นๆจะมีความผิดทางกฏหมายต้องเสียภาษีแล้ว ยังอาจโดยปรับเบี้ยเพิ่มจนทำให้กิจการมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิก็เป็นได้
4. กำไร (ขาดทุน) สุทธิ เป็นตัวเลขอันดับสุดท้ายที่แสดงในงบกำไรขาดทุน ซึ่งเกิดจากการนำผลกำไร(ขาดทุน) ขั้นต้นมาลบออกจากภาษีจ่าย กลายเป็นผลกำไร(ขาดทุน) สุทธิที่เป็นมาตรการสำคัญที่สุดในการวัดผลกำไรของบริษัท และเมื่อจบงวดบัญชีตัวเลขดังกล่าวนี้จะถูกนำไปบวกหรือลบจากกำไรสะสมซึ่งเป็นบรรทัดหนึ่งในส่วนของผู้ถือหุ้นในรายงานแสดงงบดุล(Balance Sheet)
จากส่วนประกอบทั้งหมดของรายงานงบกำไรขาดทุน จะเห็นได้ว่ารายงานดังกล่าว มีความซับซ้อนน้อยกว่ารายงานของงบดุลอย่างเห็นได้ชัด เพราะสะท้อนให้เห็นการผลการดำเนินธุรกิจของกิจการได้อย่างชัดเจน สามารถนำไปวางแผนควบคุมหรือขยายกิจการในอนาคต ดังนั้นงบกำไรขาดทุนจึงเป็นรายงานทางบัญชีอีกตัวหนึ่งที่สำคัญและผู้ประกอบการทุกคนจำเป็นต้องรู้
ที่มา : www.pangpond.co.th