การจดทะเบียนการค้า หรือ จดทะเบียนพาณิชย์ มี 2 แบบ คือ
ผู้ที่ทำธุรกิจขายสินค้า ไม่ว่าจะทำในนามบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือบริษัท จะต้องจดทะเบียนการค้าหรือจดทะเบียนพาณิชย์แต่ถ้าเป็นธุรกิจประเภทบริการอย่างเดียว ซึ่งไม่มีการขายสินค้าเกี่ยวข้อง ไม่ต้องจดทะเบียนร้านค้าหรือจดทะเบียนพาณิชย์ ตรวจสอบประเภทธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์เพิ่มเติมได้ที่นี่ โดยจะต้องจดทะเบียนการค้าหรือจดทะเบียนพาณิชย์ภายใน 30 วัน นับจากวันเริ่มประกอบกิจการ
บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจออนไลน์ ดังต่อไปนี้ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
โดยขั้นตอนและค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นเหมือนกับการจดทะเบียนพาณิชย์แบบปกติทุกประการ แต่จะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
เอกสารเพิ่มเติมที่ใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้วสามารถขอรับเครื่องหมาย เพื่อนำไปติดบนเว็บไซต์ เพื่อยืนยันการมีตัวตนอยู่จริง และทำให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอที่เว็บไซต์ www.trustmarkthai.com
กรณีที่เจ้าของหรือผุ้ประกอบการพาณิชย์เป็นคนต่างด้าว หรือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่มาตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทย จะต้องตรวจสอบดูด้วยว่ากิจการค้าที่ดำเนินการนั้นต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือไม่
หากเป็นกิจการค้าที่ต้องได้รับอนุญาต ผู้ประกอบพาณิชยกิจจะต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าก่อนยื่นจดทะเบียนพาณิชย์
สถานที่จดทะเบียนการค้า / สถานที่จดทะเบียนพาณิชย์ / สถานที่จดทะเบียนร้านค้า คือ
กรุงเทพฯ:
จดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือสำนักงานเขตที่กิจการตั้งอยู่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง โทร. 0-2224-1916, 0-2225-1945
หรือที่ ฝ่ายปกครอง สำนักงานเขตทุกแห่ง และที่เว็บไซต์ www.bangkok.go.th/finance
ต่างจังหวัด:
จดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่ เทศบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล ที่กิจการตั้งอยู่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ส่วนกำกับดูแลการจดทะเบียนพาณิชย์และภูมิภาค กองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 0-2547-4446-7 และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนเรียบร้อย นายทะเบียนจะมอบ “ใบทะเบียนพาณิชย์” ให้แก่ผู้ขอจดทะเบียนไว้เป็นหลักฐาน
กิจการที่จดทะเบียนการค้า หรือ จดทะเบียนพาณิชย์ จะต้องเสียภาษีเงินได้ตามประเภทบุคคลของผู้ขอจดทะเบียน คือ
หากจดทะเบียนพาณิชย์ในนามบุคคลธรรมดา → ก็มีภาระหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หากจดทะเบียนพาณิชย์ในนามนิติบุคคล → ก็มีภาระหน้าที่ต้องภาษีเงินได้นิติบุคคล
และหากรายได้จากการขายเกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องจดทะเบียนเป้นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย
หากท่านงานยุ่งและไม่อยากพะวงเรื่องบัญชีภาษี สามารถว่าจ้างให้สำนักงานบัญชีดูแลเรื่องบัญชีและภาษีให้ท่านได้ โดยท่านสามารถหานักบัญชีกับ Accounting Center ได้ง่ายๆ เพียง
ขั้นตอนการค้นหา