มาทําความรู้จัก Letter of Credit (L/C) หรือตราสารเครดิต

มาทําความรู้จัก Letter of Credit (L/C) หรือตราสารเครดิต

Letter of Credit (L/C) หรือตราสารเครดิต เป็นเอกสารทางการเงินที่ออกโดยธนาคารของผู้ซื้อ (ผู้เปิด L/C) เพื่อเป็นการรับประกันการชำระเงินให้กับผู้ขาย (ผู้รับประโยชน์) เมื่อผู้ขายได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุใน L/C แล้ว เอกสารนี้ถูกใช้ในธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศอย่างแพร่หลาย เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย



Letter of Credit (L/C) หรือตราสารเครดิตช่วยอะไรได้บ้าง

  • การรับประกันการชำระเงิน: ผู้ขายมั่นใจว่าจะได้รับเงินตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ เพราะธนาคารของผู้ซื้อรับประกันการชำระเงิน
  • การป้องกันความเสี่ยง: ลดความเสี่ยงจากการไม่ได้รับเงินในกรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถหรือไม่ยอมชำระเงิน
  • การบริหารความเสี่ยงทางการค้า: ลดความเสี่ยงทางการค้าและเพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ
  • การใช้เป็นหลักประกัน: ผู้ซื้อสามารถใช้ L/C เป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อจากธนาคาร
  • การสนับสนุนทางการเงิน: ผู้ขายสามารถใช้ L/C เพื่อขอสินเชื่อหรือเงินทุนหมุนเวียนจากธนาคารได้

Letter of Credit (L/C) มีกี่ประเภท

  1. Revocable L/C: สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ขายทราบ
  2. Irrevocable L/C: ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
  3. Confirmed L/C: ธนาคารที่สาม (ธนาคารที่ยืนยัน) รับประกันการชำระเงินเพิ่มเติมจากธนาคารของผู้ซื้อ
  4. Unconfirmed L/C: ไม่มีการรับประกันเพิ่มเติมจากธนาคารที่สาม
  5. Standby L/C: ใช้เพื่อรับประกันการชำระเงินในกรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้

Letter of Credit จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ ช่วยให้การค้าขายเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

Letter of Credit (L/C) มักใช้กับธุรกิจประเภทไหนบ้าง

Letter of Credit (L/C) ใช้กับธุรกิจหลากหลายประเภท โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการค้าขายระหว่างประเทศหรือการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง ซึ่งต้องการความมั่นใจในเรื่องการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า ธุรกิจหลัก ๆ ที่ใช้ L/C ได้แก่:

  1. การค้าระหว่างประเทศ (International Trade): ทั้งการนำเข้าและการส่งออกสินค้าและบริการ เช่น วัตถุดิบ เครื่องจักร สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค
  2. อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing): เมื่อมีการนำเข้าวัตถุดิบหรือเครื่องจักรเพื่อใช้ในกระบวนการผลิต
  3. การก่อสร้างและโครงการวิศวกรรม (Construction and Engineering Projects): ใช้ในการซื้ออุปกรณ์ วัสดุก่อสร้าง และบริการที่เกี่ยวข้องกับโครงการขนาดใหญ่
  4. ธุรกิจพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ (Energy and Natural Resources): การนำเข้าอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือแร่ธาตุ
  5. อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation and Logistics): การจัดหายานพาหนะหรืออุปกรณ์ขนส่งต่าง ๆ
  6. อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร (Agriculture and Food Industry): การนำเข้าหรือส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหาร
  7. ธุรกิจการค้าปลีก (Retail): การนำเข้าสินค้าเพื่อจำหน่ายในตลาดในประเทศ

ธุรกิจเหล่านี้ใช้ L/C เพื่อให้แน่ใจว่าการทำธุรกรรมจะเป็นไปตามข้อตกลงและลดความเสี่ยงทางการเงินในกรณีที่คู่ค้าไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันได้

โปรแกรมบัญชี Prosoft WINSpeed เรามีระบบ Letter of Credit (L/C)

เป็นระบบที่ใช้ในกรณีที่มีการบันทึกขายสินค้าระหว่างประเทศ โดยทางบริษัทฯ ที่เป็นผู้ขายในประเทศ มีการตกลงกับผู้ซื้อที่อยู่ต่างประเทศ ในการชำระค่าสินค้า โดยให้ธนาคารทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับ-จ่ายเงิน ซึ่งโปรแกรมสามารถรองรับอัตราแลกเปลี่ยนทุกประเภท รองรับการบันทึก L/C และการนำ Packing Credit ที่มีการโอนเงินเรียบร้อยแล้วมาตัดในการรับชำระหนี้จากลูกค้าได้

Letter of Credit
Letter of Credit

Letter of Credit

เป็นการบันทึก L/C ที่ได้รับจากลูกค้า
เพื่อเป็นการบันทึกรับชำระค่าสินค้า/บริการ
ที่เป็นลูกค้าต่างประเทศ โดยธนาคาร
จะเป็นตัวกลางในการจ่ายเงินให้กับบริษัท
ดูเพิ่มเติม
Packing Credit

Packing Credit

เป็นการบันทึก Packing Credit
เพื่อใช้ในการบันทึกรับเงินโอนจากธนาคาร
ภายหลังที่บริษัทขาย Letter of Credit
ให้กับธนาคารโดยเงินที่ได้รับนั้น
จะนำเข้าบัญชีธนาคารของบริษัท
ดูเพิ่มเติม

 392
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Landed Cost คือ ต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าจนถึงจุดหมายปลายทาง (เช่น คลังสินค้าของบริษัท) ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากราคาสินค้าเอง ทำให้สามารถคำนวณราคาที่แท้จริงของสินค้าเมื่อถึงมือผู้ซื้อหรือผู้นำเข้าได้อย่างถูกต้อง
สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น แน่นอนว่ามักจะมีปัญหาทางการเงินเข้ามาให้เจ้าของธุรกิจต้องคอยรับมืออยู่ตลอดเวลา และแม้จะระมัดระวังเป็นอย่างดีด้วยความเป็นมือใหม่ก็อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าความผิดพลาดด้านการเงิน คือ หนทางแห่งความลำบากในการทำธุรกิจ สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงินในการทำธุรกิจ ลองทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผิดพลาดเหล่านี้ดูเพื่อหาหนทางให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไป โดยข้อผิดพลาดที่ผู้ประกอบการมักพบกันก็คือ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ที่ทำให้กิจการจำเป็นและจำใจต้อง เปลี่ยนสำนักงานบัญชี ใหม่ เรื่องที่สำคัญคือ
โปรแกรม ERP เป็นระบบบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กรที่เชื่อมต่อและรวมรวมข้อมูลทั้งหมดขององค์กรในระบบเดียวกัน โดยรวมถึงเรื่องบัญชีทางการเงินด้วย โดยโปรแกรม ERP จะช่วยให้ฝ่ายบัญชีสามารถดำเนินการตรวจสอบรายการเงินสด รายการเจ้าหนี้ รายการลูกหนี้ รายการค่าใช้จ่าย และรายการบัญชีอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
โปรแกรมบัญชี เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะงานบัญชีคือส่วนหนึ่งของธุรกิจ ที่ทำให้เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารเห็นภาพรวมขององค์กรอย่างชัดเจน การมีโปรแกรมบัญชีเข้ามาช่วยงานบัญชีทำให้องค์กรมีความราบรื่น ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน
"ยื่นภาษี 2566" การจ่ายภาษีเป็นหนึ่งในหน้าที่ของประชาชนพลเมืองไทย คนไทยทุกคนที่มีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่น "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" นี่ก็ผ่านมาถึงกลางปีแล้ว เพราะฉะนั้น ควรวางแผน ลดหย่อนภาษี ไว้แต่เนิ่น ๆ และหากใครกำลังสงสัยว่าสิทธิ "ลดหย่อนภาษี 2565" มีอะไรบ้าง ทีนี่มีคำตอบค่ะ
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์