ระบบฝากขาย หรือที่เรียกว่า Consignment เป็นระบบการขายสินค้าที่ผู้ขายส่งสินค้าไปให้ร้านค้าหรือผู้จัดจำหน่าย จำหน่ายแทน โดยที่ผู้ขายไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายล่วงหน้าใด ๆ จนกว่าสินค้าจะถูกขายออกไป เมื่อสินค้าถูกขายได้แล้ว ผู้จัดจำหน่ายหรือร้านค้าจะนำเงินที่ได้จากการขายหักค่าใช้จ่ายหรือค่าคอมมิชชันตามแต่ตกลงกัน แล้วส่งยอดที่เหลือคืนให้กับผู้ขาย
ธุรกิจฝากขายในปัจจุบันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การค้าปลีกและออนไลน์กำลังเติบโต การฝากขาย (Consignment) ช่วยให้ทั้งผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการฝากขายไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรูปแบบออฟไลน์อีกต่อไป แต่สามารถขยายไปยังออนไลน์ ทำให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาช่วยจัดการระบบฝากขาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน
การจัดการสินค้าคงคลังที่ดีในธุรกิจฝากขายมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการติดตามสินค้า การลดความสูญเสีย และการเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย โดยมีแนวทางการจัดการที่ดีดังนี้:
ใช้ซอฟต์แวร์หรือระบบจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management System) ที่ครอบคลุมไปตั้งแต่การตัดเบิกสินค้าการรับสินค้า การโอนระหว่างคลังและระหว่างสาขาการตรวจนับ Stock และปรับปรุง Stock ให้ลงตัว
Safety Stock หรือ การบริหารสินค้าคงคลังขั้นต่ำ จะช่วยแก้ปัญหาความแปรผันของกำลังการผลิต และเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดสต็อกเมื่อมีความต้องการจากลูกค้า ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเพิ่มขึ้นของความต้องการที่ไม่คาดคิด ความล่าช้าในการจัดส่งจากซัพพลายเออร์ (Supplier) หรือปัญหาในกระบวนการผลิต
การจัดการตามลำดับเวลา ควรจัดวางสินค้าใหม่ไว้ข้างหลังและขายสินค้าที่เก่ากว่าออกก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่สินค้าจะหมดอายุ (Lot & Expire) หรือเสื่อมสภาพก่อนจะถูกขายและควรตรวจสอบสินค้าที่มีอายุการเก็บ หากสินค้ามีวันหมดอายุ ควรมีการตรวจสอบเป็นประจำ และวางแผนการขายเพื่อให้สินค้าถูกขายออกก่อนถึงวันหมดอายุ
ควรมีการนับสินค้าคงคลังอย่างน้อยรายเดือนเพื่อเช็คความถูกต้องของข้อมูลในระบบ และตรวจสอบความเสียหายหรือการสูญหายของสินค้า และหากสินค้าบางประเภทขายดีในช่วงฤดูกาล ควรมีการปรับปรุงสต็อกเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
สินค้าที่ไม่เคลื่อนไหวหรือขายได้ช้าควรถูกวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุ เช่น ปัญหาด้านคุณภาพ ราคา หรือการโปรโมตที่ไม่เพียงพอ สำหรับสินค้าที่ค้างสต็อก ควรพิจารณาการลดราคา การทำโปรโมชั่น หรือการคืนสินค้าให้กับผู้ขายเพื่อลดจำนวนสต็อกคงเหลือ
ติดต่อสื่อสารกับผู้ขายเกี่ยวกับสถานะของสินค้าคงคลังและยอดขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันวางแผนการจัดการสต็อกให้เหมาะสม และปรับเปลี่ยนแผนการจัดจำหน่าย หากสินค้าบางชนิดขายไม่ดี ควรหารือกับผู้ขายเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เช่น การเปลี่ยนสินค้าใหม่ การปรับราคา หรือการจัดโปรโมชั่นร่วมกัน
ใช้ข้อมูลจากยอดขายในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มและวางแผนการจัดการสินค้าคงคลังในอนาคต และวางแผนการเติมสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและการคาดการณ์ยอดขาย เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดสต็อกหรือการมีสินค้าค้างสต็อกมากเกินไป