สิ่งที่ผู้ประกอบการ SMES ควรรู้ เกี่ยวกับข้อมูลทางการเงิน

สิ่งที่ผู้ประกอบการ SMES ควรรู้ เกี่ยวกับข้อมูลทางการเงิน

สิ่งที่ผู้ประกอบการ SMES ควรรู้ เกี่ยวกับข้อมูลทางการเงิน

ผู้ประกอบการ SMEs ต้องตื่นตัวกับเศรษฐกิจในปัจจุบันอยู่เสมอ รวมไปถึงการติดตามข้อมูลทางการเงินของธุรกิจตนเองและธุรกิจรอบตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานะทางการเงินของธุรกิจและเพื่อการตัดสินใจในการดำเนินงาน ประเมินสุขภาพทางการเงิน และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลทางการเงินที่ผู้ประกอบการ SMEs ควรรู้เป็นพื้นฐานสำคัญในการบริหารจัดการธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ มีดังนี้

1. งบการเงิน (Financial Statements)

  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement) แสดงรายได้และค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของกำไรหรือขาดทุนของธุรกิจ
  • งบแสดงฐานะการเงิน (Balance Sheet) แสดงสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่กำหนด ซึ่งบ่งบอกถึงสุขภาพทางการเงินของธุรกิจ
  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement) แสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดในธุรกิจ ทั้งกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การลงทุน และการจัดหาเงินทุน ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องประมาณการกระแสเงินสดเข้า–ออก ให้ถูกต้อง เพื่อให้สามารถวางแผนบริหารจัดการเงินได้อย่างเป็นระบบ โดยพยายามบริหารเงินให้ธุรกิจได้ประโยชน์มากที่สุด

2. อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratios)

  • อัตราส่วนสภาพคล่อง (Liquidity Ratios): เช่น อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน (Current Ratio) และอัตราส่วนเงินสด (Cash Ratio) ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น
  • อัตราส่วนการทำกำไร (Profitability Ratios): เช่น อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Assets - ROA) ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการสร้างกำไร
  • อัตราส่วนการใช้หนี้ (Debt Ratios): เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt-to-Equity Ratio) ที่บ่งบอกถึงระดับการใช้หนี้ในการดำเนินธุรกิจ
  • อัตราส่วนประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Efficiency Ratios): เช่น อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover) และอัตราการหมุนเวียนเจ้าหนี้ (Accounts Payable Turnover)

3. งบประมาณ (Budgeting)

การจัดทำงบประมาณช่วยให้ SMEs วางแผนการใช้จ่าย ติดตามค่าใช้จ่ายจริงเมื่อเทียบกับงบประมาณที่วางไว้ และควบคุมการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. การบริหารกระแสเงินสด (Cash Flow Management)

กระแสเงินสดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจ SMEs การจัดการกระแสเงินสดที่ดีช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการชำระหนี้และการลงทุน

5. ต้นทุนและการตั้งราคาสินค้า (Costing and Pricing)

การทำความเข้าใจต้นทุนสินค้าและบริการ รวมถึงการตั้งราคาที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้และทำกำไรได้มากขึ้น

6. การวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไร (Break-Even Analysis)

การคำนวณจุดคุ้มทุนช่วยให้ผู้ประกอบการทราบว่าต้องขายสินค้าหรือบริการในปริมาณเท่าใดจึงจะครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดและเริ่มทำกำไร

7. การจัดการหนี้สิน (Debt Management)

การบริหารจัดการหนี้สิน เช่น การคำนวณอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน และการพิจารณาการกู้ยืมที่เหมาะสม ช่วยให้ SMEs ควบคุมระดับหนี้สินและความเสี่ยงได้ดี

8. การวางแผนภาษี (Tax Planning)

การทำความเข้าใจภาษีที่ต้องจ่ายและการวางแผนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระทางภาษีและเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจ

9. การประเมินความเสี่ยงทางการเงิน (Financial Risk Assessment)

การประเมินและจัดการความเสี่ยงทางการเงิน เช่น ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงจากตลาด ช่วยให้ธุรกิจสามารถเตรียมตัวและป้องกันความเสียหายทางการเงินได้

10. การจัดการสินทรัพย์ (Asset Management)

การดูแลและใช้สินทรัพย์ของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การบำรุงรักษาทรัพย์สิน การลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง

โปรแกรมบัญชี Prosoft WINSpeed
ช่วยคุณจัดการกับงบการเงินต่างๆ ภายในธุรกิจของคุณได้อย่างง่ายดาย

โปรแกรมบัญชี Prosoft WINSpeed สร้างงบการเงินได้หลากหลาย
  • สามารถประมาณการรายรับได้จาก ใบสั่งขาย, บันทึกขาย, ใบวางบิล
  • สามารถประมาณการรายจ่ายได้จาก ใบสั่งซื้อ, บันทึกซื้อ
  • สามารถดูรายงานเปรียบเทียบประมาณการรายรับ-รายจ่ายได้จาก
    • ใบสั่งขายเปรียบเทียบกับใบสั่งซื้อ
    • บันทึกขายเปรียบเทียบกับบันทึกซื้อ
  • สามารถดูรายงานเปรียบเทียบประมาณการเช็ครับ-เช็คจ่าย
  • สามารถดูกราฟเปรียบเทียบประมาณการเช็ครับ-เช็คจ่าย
  • สามารถดูประมาณการ Statement ของเช็คได้ เพื่อดูยอดเงินในอนาคต ณ วันที่เรียกดูรายงาน
  • สามารถสร้างงบการเงินได้ตามต้องการ เช่น งบดุล, งบกำไรขาดทุน, งบกระแสเงินสด, หมายเหตุประกอบงบการเงิน เช่น งบกำไรขาดทุนเปรียบเทียบตามเดือน, ไตรมาส, ปี

 

 48
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น แน่นอนว่ามักจะมีปัญหาทางการเงินเข้ามาให้เจ้าของธุรกิจต้องคอยรับมืออยู่ตลอดเวลา และแม้จะระมัดระวังเป็นอย่างดีด้วยความเป็นมือใหม่ก็อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าความผิดพลาดด้านการเงิน คือ หนทางแห่งความลำบากในการทำธุรกิจ สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงินในการทำธุรกิจ ลองทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผิดพลาดเหล่านี้ดูเพื่อหาหนทางให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไป โดยข้อผิดพลาดที่ผู้ประกอบการมักพบกันก็คือ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ที่ทำให้กิจการจำเป็นและจำใจต้อง เปลี่ยนสำนักงานบัญชี ใหม่ เรื่องที่สำคัญคือ
โปรแกรม ERP เป็นระบบบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กรที่เชื่อมต่อและรวมรวมข้อมูลทั้งหมดขององค์กรในระบบเดียวกัน โดยรวมถึงเรื่องบัญชีทางการเงินด้วย โดยโปรแกรม ERP จะช่วยให้ฝ่ายบัญชีสามารถดำเนินการตรวจสอบรายการเงินสด รายการเจ้าหนี้ รายการลูกหนี้ รายการค่าใช้จ่าย และรายการบัญชีอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
โปรแกรมบัญชี เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะงานบัญชีคือส่วนหนึ่งของธุรกิจ ที่ทำให้เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารเห็นภาพรวมขององค์กรอย่างชัดเจน การมีโปรแกรมบัญชีเข้ามาช่วยงานบัญชีทำให้องค์กรมีความราบรื่น ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน
"ยื่นภาษี 2566" การจ่ายภาษีเป็นหนึ่งในหน้าที่ของประชาชนพลเมืองไทย คนไทยทุกคนที่มีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่น "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" นี่ก็ผ่านมาถึงกลางปีแล้ว เพราะฉะนั้น ควรวางแผน ลดหย่อนภาษี ไว้แต่เนิ่น ๆ และหากใครกำลังสงสัยว่าสิทธิ "ลดหย่อนภาษี 2565" มีอะไรบ้าง ทีนี่มีคำตอบค่ะ
เจ้าของธุรกิจที่ซื้อโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ อาจจะต้องเสียค่าซื้อโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ก็จะเริ่มหันมาสนใจว่า รายจ่ายเหล่านี้สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้หรือไม่ หรือภาษีซื้อที่จ่ายไปนำมาใช้ประโยชน์ทางภาษีได้บ้างหรือไม่ ซึ่งสามารถตามไปหาคำตอบพร้อมกันจากบรรทัดต่อจากนี้
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์