ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "AI" คือ เทคโนโลยีที่สร้างขึ้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักรสามารถทำงานหรือประมวลผลข้อมูลได้เสมือนกับสมองของมนุษย์ โดย AI สามารถเรียนรู้ (Learning) คิดวิเคราะห์ (Reasoning) และปรับปรุงหรือแก้ไขตัวเองได้ (Self-correction) ในกระบวนการทำงาน ซึ่งถูกนำมาใช้ในหลายด้าน เช่น หุ่นยนต์ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) การรู้จำภาพ และระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert Systems)
AI สามารถเข้ามาช่วยงานบัญชีได้ในหลายด้าน โดยการใช้เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานบัญชี ลดความผิดพลาดในการบัญชี สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดเวลาในกระบวนการทำงาน สำหรับงานที่ AI สามารถเข้ามาช่วยงานบัญชีได้ มีดังนี้:
AI สามารถทำงานที่มีลักษณะซ้ำซาก เช่น การป้อนข้อมูล การจัดเรียงเอกสารทางบัญชี และการสร้างรายงานการเงินโดยอัตโนมัติ สร้างเอกสารทางบัญชีด้วยเทคโนโลยี OCR เพียงแค่แสกนเอกสารอย่าง ใบกำกับภาษี/ใบส่งของ ใบสั่งซื้อ ใบรับสินค้า ช่วยให้นักบัญชีทำงานได้รวดเร็วและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากมนุษย์
AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินจำนวนมากเพื่อสรุปแนวโน้มการเงิน ทำการพยากรณ์ทางการเงิน การพยากรณ์กระแสเงินสด (Cash Flow Forecasting) หรือประเมินประสิทธิภาพของบริษัทได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการเงินได้ดีขึ้น
ด้วยการใช้ Machine Learning, AI สามารถวิเคราะห์รูปแบบการทำธุรกรรมและตรวจจับสิ่งที่ผิดปกติได้ เช่น ด้านการเงินการธนาคาร และประกันภัย นำ AI เข้ามาช่วยการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสมัครใช้บริการทางการเงินต่าง ๆ ช่วยในการป้องกันการโกงจากการทำธุรกรรมออนไลน์ การพยายามทุจริตที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียทางการเงินได้
AI สามารถช่วยจัดทำงบการเงินและรายงานต่างๆ ที่ต้องใช้ในงานบัญชี เช่น งบกำไรขาดทุน งบดุล หรือกระแสเงินสดได้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการเตรียมเอกสาร
AI สามารถประสานงานระหว่างทีมงานบัญชี ช่วยให้การทำงานระหว่างฝ่ายหรือแผนกเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น โดยสามารถตรวจสอบความคืบหน้าในการทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
AI สามารถช่วยในการคำนวณภาษี จัดทำเอกสารที่เกี่ยวกับภาษี รวมถึงช่วยระบุการยกเว้นภาษีหรือข้อได้เปรียบทางภาษีที่บริษัทอาจใช้ได้
จากข้อดีของ AI ต่อนักบัญชีที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็ต้องบอกว่าผลกระทบด้านลบก็มีเหมือนกันนะ ลองมาดูกันค่ะ AI มีผลกระทบทางลบยังไงบ้าง
ดังนั้น การใช้ AI แม้ว่าจะมีประโยชน์อย่างมาก แต่การเตรียมตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทักษะใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักบัญชีในการปรับตัวด้วยเช่นกัน
สรุป การนำเอา AI มาใช้กับงานบัญชี ช่วยให้นักบัญชีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถประมวลผลข้อมูลทางการเงิน รวดเร็วและแม่นยำ แต่ AI ยังขาดความสามารถในการทำงานที่ต้องใช้ความเข้าใจ และนักบัญชีเองยังนับว่ามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของงานบัญชี แม้ว่า AI จะมีประโยชน์อย่างมากก็ตาม การเตรียมตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทักษะใหม่ๆของตนเอง ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักบัญชีในการปรับตัวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากนักบัญชีมีโปรแกรมบัญชี ที่สามารถเข้ามาช่วยงานบัญชี ควบคู่ไปกับ AI คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว เราขอแนะนำโปรแกรมบัญชี Prosoft WINSpeed ที่ตอบโจทย์นักบัญชีและเจ้าของธุรกิจยุคใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้งานบัญชีนั้นให้เป็นเรื่องง่าย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.prosoftwinspeed.com/
ข้อมูลอ้างอิง : blog.cpdacademy.co