เงินทดรองจ่าย และเงินสดย่อย เหมือนหรือต่างกันยังไง

เงินทดรองจ่าย และเงินสดย่อย เหมือนหรือต่างกันยังไง

เงินทดรองจ่าย และ เงินสดย่อย มีความคล้ายคลึงกันในแง่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายภายในองค์กร แต่มีจุดแตกต่างกันที่สำคัญ ดังนี้:

เงินทดรองจ่าย (Advance Payment)

  • ลักษณะ: เป็นเงินที่องค์กรจ่ายล่วงหน้าให้กับพนักงานหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเพื่อใช้จ่ายในงานหรือกิจกรรมเฉพาะอย่าง เช่น การเดินทาง การซื้อสินค้า หรือการดำเนินงานต่าง ๆ
  • การคืนเงิน: ผู้รับเงินทดรองจ่ายต้องนำหลักฐานการใช้จ่าย (เช่น ใบเสร็จ) มาส่งเพื่อเคลียร์เงิน เมื่อใช้จ่ายไม่หมด ผู้รับต้องคืนเงินที่เหลือให้บริษัท หรือหากใช้เกินก็ต้องยื่นเรื่องเบิกเพิ่มเติม
  • ระยะเวลา: เงินทดรองจ่ายเป็นการให้เงินเพียงครั้งเดียวและเฉพาะเจาะจงสำหรับภารกิจใดภารกิจหนึ่ง เมื่อเสร็จภารกิจจะต้องเคลียร์บัญชีทั้งหมด

เงินสดย่อย (Petty Cash)

  • ลักษณะ: เป็นเงินสดจำนวนเล็กน้อยที่จัดเตรียมไว้ในองค์กรหรือสำนักงาน เพื่อใช้ในการจ่ายค่าใช้จ่ายประจำวัน หรือค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อย เช่น ค่าไปรษณีย์ ค่าเครื่องเขียน หรือค่าบริการขนส่งสินค้า
  • การใช้จ่าย: เงินสดย่อยใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันขององค์กร โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการเบิกจ่ายที่ยุ่งยาก เมื่อเงินสดย่อยถูกใช้จนหมด จะมีการเบิกเงินมาเติมใหม่
  • การคืนเงิน: ไม่มีการคืนเงินเฉพาะเจาะจงเหมือนกับเงินทดรองจ่าย เพราะเงินสดย่อยจะถูกเติมใหม่อย่างต่อเนื่องตามความจำเป็น

ความแตกต่างหลัก

  • วัตถุประสงค์: เงินทดรองจ่ายใช้สำหรับกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงและครั้งเดียว ส่วนเงินสดย่อยใช้สำหรับค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในกิจวัตรประจำวัน
  • การคืนเงิน: เงินทดรองจ่ายต้องเคลียร์เงินให้ครบถ้วนเมื่อสิ้นสุดภารกิจ แต่เงินสดย่อยไม่ต้องเคลียร์เช่นนั้น แต่จะเติมเงินใหม่เมื่อใช้จ่ายไปหมด
  • ความยืดหยุ่น: เงินสดย่อยมีความยืดหยุ่นมากกว่าเพราะใช้จ่ายได้กับค่าใช้จ่ายที่หลากหลายและไม่จำเป็นต้องมีการอนุมัติล่วงหน้า ขณะที่เงินทดรองจ่ายจะมีการระบุวัตถุประสงค์ชัดเจน

 288
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Landed Cost คือ ต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าจนถึงจุดหมายปลายทาง (เช่น คลังสินค้าของบริษัท) ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากราคาสินค้าเอง ทำให้สามารถคำนวณราคาที่แท้จริงของสินค้าเมื่อถึงมือผู้ซื้อหรือผู้นำเข้าได้อย่างถูกต้อง
สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น แน่นอนว่ามักจะมีปัญหาทางการเงินเข้ามาให้เจ้าของธุรกิจต้องคอยรับมืออยู่ตลอดเวลา และแม้จะระมัดระวังเป็นอย่างดีด้วยความเป็นมือใหม่ก็อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าความผิดพลาดด้านการเงิน คือ หนทางแห่งความลำบากในการทำธุรกิจ สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงินในการทำธุรกิจ ลองทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผิดพลาดเหล่านี้ดูเพื่อหาหนทางให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไป โดยข้อผิดพลาดที่ผู้ประกอบการมักพบกันก็คือ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ที่ทำให้กิจการจำเป็นและจำใจต้อง เปลี่ยนสำนักงานบัญชี ใหม่ เรื่องที่สำคัญคือ
โปรแกรม ERP เป็นระบบบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กรที่เชื่อมต่อและรวมรวมข้อมูลทั้งหมดขององค์กรในระบบเดียวกัน โดยรวมถึงเรื่องบัญชีทางการเงินด้วย โดยโปรแกรม ERP จะช่วยให้ฝ่ายบัญชีสามารถดำเนินการตรวจสอบรายการเงินสด รายการเจ้าหนี้ รายการลูกหนี้ รายการค่าใช้จ่าย และรายการบัญชีอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
โปรแกรมบัญชี เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะงานบัญชีคือส่วนหนึ่งของธุรกิจ ที่ทำให้เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารเห็นภาพรวมขององค์กรอย่างชัดเจน การมีโปรแกรมบัญชีเข้ามาช่วยงานบัญชีทำให้องค์กรมีความราบรื่น ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน
"ยื่นภาษี 2566" การจ่ายภาษีเป็นหนึ่งในหน้าที่ของประชาชนพลเมืองไทย คนไทยทุกคนที่มีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่น "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" นี่ก็ผ่านมาถึงกลางปีแล้ว เพราะฉะนั้น ควรวางแผน ลดหย่อนภาษี ไว้แต่เนิ่น ๆ และหากใครกำลังสงสัยว่าสิทธิ "ลดหย่อนภาษี 2565" มีอะไรบ้าง ทีนี่มีคำตอบค่ะ
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์